วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

6หลักการทำบ้านโมเดิร์นแบบอยู่สบาย

บ้านสไตล์โมเดิร์นน่าจะเป็นบ้านในฝันของใครหลายคนเพราะมีรูปทรงที่ดูทันสมัย รวมถึงดูแลรักษาง่ายแต่หารู้ไม่ว่าแดดจ้าพายุแรงอย่างมลในเมืองไทยอาจส่งผลให้บ้านดูโทรมดังนั้นเราจึงต้องหาทางหนีที่ไล่กันสักหน่อยด้วยการทำให้บ้านโมเดิร์นเต็มไปด้วยฟังก์ชันที่เหมาะกับสภาพดินฟ้าอากาศในแต่ละวันโดยยังคงรูปฟอร์มสะอาดของบ้านโมเดิร์นอยู่เช่นเดิน
1.ผนังทึบทางทิศตะวันตกช่วยลดการเผชิญหน้ากับแสงแดดโดยตรง ทำผนังก่ออิฐมวลเบาบรรจุแผ่นโฟมฉนวนกันความร้อนเพื่อลดความร้อนเข้าสู้ตัวบ้านหรือเลือกใช้การเว้นการตีแผ่นไม้ซ้อน 2 ชั้นสับหว่างกันมุมที่เหลื่อมกันนี้ที่จะช่วยบดบังการมองเห็นจากภายนอกและระบายอากาศได้ดีหรือจะใช้การกรุแผ่นกระจกนิรภัยหนา 10 มิลลิเมตรแบบเหลื่อมกันเพื่อรับแสงสว่างและวิวธรรมชาติอีกทางเลือกคือการทำผนังปิด-ปิดได้เสมือนป็นเปลือกอาคารปกป้องผนังส่วนที่ส่วนที่เป็นกระจกไม่ให้เกิดความเสียหาย โดยติดแผงระแนงเว้นช่องประมาณ 1.5 นิ้วทำเป็นบานเฟี้ยมหรือบานเลื่อนหรือจะใช้แผ่นไม้เนื้อแข็งกว่าง 20-25 เซนติเมตร หมุนออกได้เมื่อต้องการเปิดรับอากาศด้านนอกอย่าลืมติดตั้งระบบล็อกรวมทั้งทำขอบบังใบให้ปิดสนิทเป็นผนังทึบ
2.หลังคาคือส่วนที่สัมผัสกับแสงแดดโดยตรงตลอดทั้งวันแม้บ้านโมเดิร์นจะมีรูปทรงเป็นกล่องสี่เหลื่ยมไปเสียหมดแต่เราก็เทคนิคการทำหลังคาให้เหมาะกับเขตมรสุมแบบเมืองไทยช่วยกันรังสีจากดวงอาทิตย์และระบายน้ำฝนรวมถึงยังสามารถออกแบบให้ลมพัดผ่านระบายความร้อนออกจากตัวบ้านได้อย่างสบายๆสำหรับบ้านทรงกล่องอาจยกขอบผนังโดยรอบให้สูงขึ้นเพื่อให้หลังคาลาดเอียงแล้วทำรางระบายน้ำฝนซ่อนไว้ด้านในหรือทำ flat  slab กันการรั่วซึมแล้วจึงวางแผ่นโซลาร์สแลบหรือกระเบื้องคอนกรีตสำหรับปูดาดฟ้า ใช้เป็นฉนวนกันความร้อนบนหลังคาหรือจะทำหลังคาทั้งหันไปทางทิศเหนือเพื่อให้ลมพัดผ่านช่องระหว่างหลังคาทั้งสองชั้นช่วยลดความร้อนของชั้นดาดฟ้าได้อีกทางหนึ่งเหล็กเป็นทางเลือดที่ดีหรับยกหลังคาชั้นที่สองเพราะช่วยลดทอนขนาดให้ดูบางเบาชั้นบนเป็นหลังคาคอนกรีตซ้อนด้วยเมทัลชีทกรุฉนวนกันความร้อนอีกชั้นหนึ่งเพื่อไม่ให้ความร้อนกระทบตัวบ้านโดยตรง
3.สืบเนื่องจากทิศทางของลมประจำถิ่นและแสงแดดตอนเช้าทางทิศตะวันออก แล้วเคลื่อนตัวอ้อมไปทางใต้ในตอนบ่ายก่อนจะตกในทิศตะวันตกเราจึงควรวางผังบ้านตามแนวตะวันออก-ตะวันตกเพื่อให้ด้านยาวของอาคารสัมผัสกับแสงธรรมชาติได้ตลอดทั้งวันจากทางทิศเหนือรวมถึงรับลมและถ่ายเทความร้อนที่สะสมในอาคารทางทิศใต้การแยกอาคารออกเป็นหลายส่วนแล้วเชื่อมส่วนกลางด้วยพื้นที่โล่งสำหรับจัดเป็นสวนขุดบ่อน้ำให้สมาชิกออกมานั่งพักผ่อนหรือสังสรรค์กันในครอบครัวเป็นวิธีช่วยเพิ่มพื้นที่เปิดรับอากาศภายนอกให้เข้ามาสู่ในบ้านช่วยให้บ้านไม่อุดอู้หรือทึบเกินไปแต่สำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัดแนะนำให้ออกแบบโถงกลางที่มีเพดานสูงหรือมีช่องเปิดตรงบริเวณโถงบันไดก็ช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้นเพาระอากาศร้อนที่เบากว่าจะลอยขึ้นสู่ที่สูงพื้นที่พักอาศัยหรือมุมนั่งเล่นชั้นล่างจึงเย็นสบายปลอดโปร่งขึ้น
4.สร้างความร่มรื่นรอบบ้านเพื่อให้มีบรรยากาศน่าอยู่หรือที่เรียกว่าComfort Zone ให้สมาชิกในบ้านได้สัมผัสกับธรรมชาติของต้นไม้พื้นหญ้าและผิดดินซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิภายนอกลงได้โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ที่ช่วยป้องกันแดดและลัอองน้ำฝนก่อนสัมผัสกับตัวบ้านเปรียบเหมือนแนวแบร์รีเออร์ช่วยลดอุณหภูมิไอความร้อนจากด้านนอกก่อนพัดเข้าบ้านได้อีกทางหนึ่งส่วนพื้นทางเดินในสวนควรหลีกเลี่ยงการใช้พื้นคอนกรีตแบบเต็มพื้นที่เพราะคอนกรีตเป็นตัวสะท้อนและคายความร้อน
5.กระจกเป็นอีกผลผลิตทางอุตสาหกรรมที่มาจากแนวคิดยุคโมเดิร์นสำหรับการนำกระจกมาใช้กับบ้านก็เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างนอกบ้านกับในบ้านเมืองไทยที่มีแดดแรงเกือบตลอดวันควรคำนึงถึงทิศทางและรูปแบบของช่องหน้าต่างให้และทิศใต้ได้สะดวกหรือจะใช้กระจกตัดแสงก็เป็นอีกทางเลือดที่เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยเพระสามารถกรองแสงแดดจ้าให้เบาบางลง

6.สำหรับการทำชายคาให้ยื่นออกมาจากแนวผนังเพื่อช่วยป้องกันความร้อนของแสงอาทิตย์ในเวลากลางวันและความรุนแรงของพายุฟ้าคะนองในฤดูฝนอาจใช้การรุ่นหน้าต่างเข้าไปจากแนวเสาโดยไม่ต้องสร้างหลังคาชั้นล่างให้บ้านด้วยแสงเงาที่เปลื่ยนแปลงไปตามแต่ละช่วงเวลาของวันโดยติดตั้งแผงระแนงไม้หรืออะลูมิเนียมทพสีให้มีระยะห่างออกมาจากผนังบ้าน



ชุดครัวปูนสำเร็จรูป ไอยรา 

www.ayara1656.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น