ความน่ากลัวของทุกวันนี้คือ
ความฉาบฉวย ของทุกสิ่งทุงอย่างเทรนด์และสไตล์ต่างๆ
เกิดขึ้นและเป็นที่นิยมมากในเวลาชั่วข้ามคืนด้วยแรงกระตุ้นของโซเชียลมีเดียก็ยิ่งทำให้แฟชั่นและเทรนด์เกิดขึ้นและดับไปอย่างรวดเร็ว
เช่น เดียวกับสไตล์การตกแต่งภายในของบ้านการตกแต่งบ้านในรูปแบบสมัยใหม่ที่มีความฟู่ฟ่า
โดดเด่นสะดุดตาเห็นแล้วตื่นเต้นเป็นพักๆ
ก็หายวับไปจะมีสักกี่รูปแบบการตกแต่งที่เป็นที่ยอมรับว่าสวบงามจนทำให้กาลเวลาไม่มีผลใดๆ
บางคนเรียนแนวทางการตกแต่งแบบนี้ว่า
Timeless Style หรือ สไตล์แห่งกาลนิรันดร์ อยู่เหนือกาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่ทำให้สไตล์นี้กลายเป็นเชย
โบราณ หรือ ได้รับความนิยมน้อยลงแม้แต่น้อย บ้าน
ถีอว่าเหมาะสมกับสไตล์นี้เป็นดีที่สุด เพราะเป็นที่อยู่อาศัยที่ไม่ใช่เพียงระยะสั้นแต่อาจจะหมายถึงตลอดชีวิต
ดังนั้นสไตล์นี้จึงเหมาะแก่การป้องกันความเบื่อที่อาจจะเกิดขึ้นจากการมองเห็นทุกๆวัน
DG lnsight ฉบับนี้จึงขอพาทุกคนไปรู้จักกับการแต่งบ้านให้มีความงามแบบ
Timeless ที่ไม่มีวันเชย ซึ่งการจะเริ่มต้นออกบ้านในสไตล์นี้ได้สิ่งแรกที่เราควรต้องทำนั่นก็คือ
การหยุดวิ่งตามเทรนด์หรือแฟชั่น เสียก่อน
การตกแต่งบ้านแบบ
Timeless แบบนี้จะอยู่ห่างไกลคำว่าเทรนด์หรือแฟชั่นอย่างมาก
คำว่าแฟชั่นก็มีความหมายว่าเป็นสิ่งที่เข้ามาและผ่านไปก็มักมีเทรนด์ ใหม่ๆ เข้ามาแทนที่บ้านของเราก็จะกลายเป็นเชยขึ้นมาทันทีดังนั้นเราควรจะลืมเรื่องกระแสไปให้หมดแล้วหันมาดูว่าบ้านของเราต้องการอะไรอย่างจริงกันดีกว่า
บางคนอาจจะมองว่าการตกแต่งบ้านแบบคลาสสิคเป็นสไตล์ที่เชยหรือโบราณ
แต่จริงๆ
แล้วด้วยลุคส์ที่ภูมิฐานสง่างามทำให้สไตล์คลาสสิคกลายเป็นที่ยอมรับว่าดูดีถูกผสมผสานและลดทอนรายละเอียด
จนเกิดเป็นสไตล์โทเดิร์นคลาสสิคที่มีความทันสมัยเพิ่มขึ้นมา
และนั่นคือจุดที่เกิดหว่างความโมเดิร์นและความคลาสสิค นั่นเอง
หากมีองค์ประกอบของความคลาสสิคมากไปอาจจะทำให้บ้านดูล้าสมัย
ในขณะที่บ้านแบบโมเดิร์นที่รัยบร้อยเกินไปก็ให้ความรู้สึกแข้งกระด้างอยู่ไม่สบาย
วิธีง่ายที่สุดในการหาตรงกลางอาจทำได่โดยการนำองค์ประกอบคลาสสิคมาลด เช่น
นำคิ้วบัวที่มีขนาดใหญ่ที่นิยมใช้ในงานคลาสสิคมาลดขนาดลงแต่ยังคงดีเทลแบบคลาสสิคอยู่หรือลดจุดเด่นของห้องที่มีส่วน่เหลือตกแต่งแบบโมเดิร์น
เป็นต้น
จุดสำคัญของการตกแต่งแบบ
Timeless อีกอย่างนั่นก็คือการออกแบบให้เกิดบรรยากาศที่น่าอยู่
อบอุ่นและเป็นกันเอง
ซึ่งโดยส่วนมากบ้านแบบโมเดิร์นหรือมินิมอลจะขาดในส่วนนี้อาจใช้การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบายดูน่าใช้งานและยังทำให้บ้านดูโอ่อ่าตามแนวความคิดของคลาสสิคนอกจากนั้นการเลือกหมอนและผ้าบุต่างๆก็เป็นอีกองค์ประกอบที่จำเป็นจะต้องใส่ใจโดยควรเลือกหมอนหรือเบาะที่ให้ความรู้สึกนุ่มสบายมีเท็กซ์เจอร์ที่อ่อนนุ่มกว่าปกติ
สร้างบรรยากาศน่าพักผ่อนเหมาะสมกับความเป็นบ้านอยู่อาศัยอย่างแท้จริง
Mood และ Tone โดยรวมควรออกแบบให้อยู่บนพื้นฐานของความเรียบง่ายโดยเฉพาะการใช้สีมักในกลุ่มของสี
Neutral ได้แก่ สีขาว
สีดำ สีเบจ สีครีมและสีน้ำตาล อาจใช้สีที่มีความสดไม่มากเข้ามาบ้างก็ได้
ซึ่งสามารถใช้เข้ากับกลุ่มสี Neutral ได้อยู่แล้วและให้ความรู้สึกที่ดูภูมิฐานเป็นผู้ใหญ่
เช่น สีน้ำเงินเข้ม สีกรมท่า สีม่วง สีแดงเลือดหมู
ชุดครัวปูนสำเร็จรูป ไอยรา
www.ayara1656.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น